ข้อเรียกร้องปี 2552
จังหวัด | ลักษณะสถานประกอบการ | ||||||||||||||||||
รวม | เอกชน | กิจการตาม ม.23 | รัฐวิสาหกิจ | ||||||||||||||||
แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | ||||||||
กทม. | 54 | 54 | 86,976 | 47 | 47 | 69,797 | 3 | 3 | 935 | 4 | 4 | 16,244 | |||||||
ปริมณฑล | | | | | | | | | | | | | |||||||
| | | | | | | | | | | | | |||||||
|
|
|
|
|
|
| | | | | | | |||||||
|
|
|
|
|
|
| | | | | | | |||||||
| 2 | 2 | 729 | 2 | 2 | 729 | | | | | | | |||||||
ภาคกลาง | | | | | | | | | | | | | |||||||
กาญจนบุรี | | | | | | | | | | | | | |||||||
นครนายก | | | | | | | | | | | | | |||||||
ฉะเชิงเทรา | 19 | 23 | 14,518 | 19 | 23 | 14,518 | | | | | | | |||||||
ชลบุรี | 57 | 60 | 40,390 | 56 | 59 | 39,934 | 1 | 1 | 456 | | | | |||||||
ชัยนาท | 1 | 1 | 373 | 1 | 1 | 373 | | | | | | | |||||||
ปราจีนบุรี | 11 | 14 | 6,820 | 11 | 14 | 6,820 | | | | | | | |||||||
ลพบุรี | | | | | | | | | | | | | |||||||
อ่างทอง | 1 | 1 | 280 | 1 | 1 | 280 | | | | | | |
จังหวัด | ลักษณะสถานประกอบการ | ||||||||||||||
รวม | เอกชน | กิจการตาม ม.23 | รัฐวิสาหกิจ | ||||||||||||
แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | ||||
พระนครศรีอยุธยา | 39 | 40 | 45,182 | 39 | 40 | 45,182 | | | | | | | |||
เพชรบุรี | | | | | | | | | | | | | |||
ประจวบคีรีขันธ์ | | | | | | | | | | | | | |||
สิงห์บุรี | | | | | | | | | | | | | |||
สระบุรี | 8 | 10 | 2,841 | 8 | 10 | 2,841 | | | | | | | |||
ระยอง | 45 | 50 | 37,647 | 45 | 50 | 37,647 | | | | | | | |||
ตราด | | | | | | | | | | | | | |||
ราชบุรี | 1 | 1 | 400 | 1 | 1 | 400 | | | | | | | |||
| | | | | | | | | | | | | |||
| | | | | | | | | | | | | |||
นครสวรรค์ | | | | | | | | | | | | | |||
ตาก | | | | | | | | | | | | | |||
เชียงใหม่ | | | | | | | | | | | | | |||
ลำพูน | 1 | 1 | 47 | 1 | 1 | 47 | | | | | | |
จังหวัด | ลักษณะสถานประกอบการ | |||||||||||||||
รวม | เอกชน | กิจการตาม ม.23 | รัฐวิสาหกิจ | |||||||||||||
แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | แห่ง |
| ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง | |||||
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | | | | | | | | | | | | |||||
| | | | | | | | | | | | | ||||
| 1 | 1 | 666 | 1 | 1 | 666 | | | | | | | ||||
| 1 | 1 | 1,071 | 1 | 1 | 1,071 | | | | | | | ||||
ชัยภูมิ | | | | | | | | | | | | | ||||
หนองบัวลำภู | | | | | | | | | | | | | ||||
ภาคใต้ | | | | | | | | | | | | | ||||
ชุมพร | | | | | | | | | | | | | ||||
ระนอง | | | | | | | | | | | | | ||||
ปัตตานี | | | | | | | | | | | | | ||||
สงขลา | 3 | 3 | 855 | 3 | 3 | 855 | | | | | | | ||||
ภูเก็ต | 8 | 8 | 2,028 | 8 | 8 | 2,028 | | | | | | | ||||
รวม | 434 | 493 | 361,077 |
|
|
| 4 | 4 |
| | | |
ที่มา http://relation.labour.go.th/
กิจการตาม มาตรา 23 : การประกอบธุรกิจขายตรง
มาตรา 23 สัญญาระหว่างผู้จำหน่ายอิสระกับผู้ประกอบธุรกิจขายตรง ให้ทำเป็นหนังสือซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) เงื่อนไขที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจ่ายผลตอบแทนตามแผนการจ่ายผลตอบแทน
(2) เงื่อนไขที่ชัดเจนเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการสมัคร ค่าฝึกอบรม ค่าวัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย หรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
(3) เงื่อนไขที่ชัดเจนเกี่ยวกับการที่ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงจะรับซื้อสินค้า วัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย ชุดคู่มือ หรืออุปกรณ์ส่งเสริมธุรกิจคืนจากผู้จำหน่ายอิสระ ตลอดจนกำหนดระยะเวลาที่ผู้จำหน่ายอิสระสามารถใช้สิทธิดังกล่าว
ความในวรรคหนึ่ง (1) และ (2) ให้นำมาใช้บังคับแก่ตัวแทนขายตรงที่ไม่ใช่ลูกจ้างด้วย
การกระทำอันไม่เป็นธรรม
นายจ้างได้เลิกจ้างหรือกระทำการใด ๆ อันอาจเป็นผลให้ลูกจ้าง ผู้แทนลูกจ้าง กรรมการสหภาพแรงงานหรือกรรมการสหพันธ์แรงงานไม่สามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้ เพราะเหตุที่ลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานได้นัดชุมนุม ทำคำร้อง ยื่นข้อเรียกร้อง เจรจา หรือดำเนินการฟ้องร้อง หรือเป็นพยาน หรือให้หลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน หรือนายทะเบียนพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงาน ผู้พิพาทแรงงาน หรือกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ตามพระราชบัญญัตินี้หรือ ต่อศาลแรงงาน หรือเพราะเหตุที่ลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานกำลังจะทำการดังกล่าว
นายจ้างได้เลิกจ้างหรือกระทำการใด ๆ อันอาจเป็นผลให้ลูกจ้างไม่สามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้เพราะเหตุที่ลูกจ้างนั้น เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน นายจ้างได้ขัดขวางในการที่ลูกจ้างนั้นเป็นสมาชิกหรือให้ลูกจ้างออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน หรือให้หรือตกลงจะให้เงินหรือทรัพย์สินแก่ลูกจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของสหภาพแรงงาน เพื่อมิให้สมัครหรือรับสมัครลูกจ้างเป็นสมาชิก หรือเพื่อให้ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน
นายจ้างได้ขัดขวางการดำเนินการของสหภาพแรงงานหรือสหพันธ์แรงงานหรือขัดขวางการใช้สิทธิของลูกจ้างในการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน หรือ
นายจ้างเข้าแทรกแซง ในการดำเนินการของสหภาพแรงงานหรือสหพันธ์แรงงานโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ใดบังคับหรือขู่เข็ญ โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ลูกจ้างต้องเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานหรือต้องออกจากการเป็นสหภาพแรงงานหรือ
ผู้ใดกระทำการใด ๆ อันอาจเป็นผลให้นายจ้างฝ่าฝืนมาตรา 121
นายจ้างได้เลิกจ้างลูกจ้าง ผู้แทนลูกจ้าง กรรมการ อนุกรรมการ หรือสมาชิกสหภาพแรงงานหรือกรรมการ อนุกรรมการ สหพันธ์แรงงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง เว้นแต่บุคคลดังกล่าวได้กระทำการดังต่อไปนี้
Ø ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
Ø จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
Ø ฝ่าฝืนข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งอันชอบธรรมด้วยกฎหมายของนายจ้างโดยนายจ้างว่ากล่าวและตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรงนายจ้างไม่จำต้องว่ากล่าวตักเตือนทั้งนี้ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่งนั้นต้องมิได้ออกเพื่อขัดขวางมิให้บุคคลดังกล่าว ดำเนินการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องหรือ
Ø ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวัน ทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
Ø กระทำการใด ๆ เป็นการยุยง สนับสนุน หรือชักชวนให้มีการฝ่าฝืนข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างหรือคำชี้ขาด
คุณสมบัติของผู้ร้อง
ผู้ร้องต้องเป็นผู้เสียหายโดยตรงได้แก่ ลูกจ้าง สหภาพแรงงาน สหพันธ์แรงงาน
ระยะเวลาการใช้สิทธิ
ผู้เสียหายต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีการฝ่าฝืน เช่น วันที่ถูกนายจ้างเลิกจ้าง วันที่ถูกนายจ้างโยกย้ายหน้าที่ ฯลฯ
สถานที่ยื่นคำร้อง
ส่วนกลาง ผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องได้ที่กลุ่มงานคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ปัจจุบัน
ตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 อาคาร กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี ดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0 – 2643 – 4477
ส่วนภูมิภาค ผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดหรือ ที่กลุ่มงานคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ กระทรวงแรงงาน
การดำเนินการของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
Ø คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ จะส่งคำร้องกล่าวหาให้นายจ้างผู้ถูกกล่าวหาทราบและให้ผู้ถูกกล่าวหาส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นหนังสือให้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ภายใน 8 วัน นับแต่วันที่รับทราบคำกล่าวหา
Ø สำนักงานคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ซึ่งทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการจะบรรจุเรื่องเข้าระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการ และกำหนดนัดให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าพบเพื่อชี้แจงและตอบข้อซักถามต่อคณะกรรมการ
Ø คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อสอบหาข้อเท็จจริงในรายละเอียดและนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด และออกคำสั่งของคณะกรรมการฯ ต่อไป
Ø คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จะต้องพิจารณาวินิจฉัย และออกคำสั่งภายใน 90 วัน นับแต่วันรับคำร้องกล่าวหา และแจ้งให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายทราบและปฏิบัติ
แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
กรณีที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
หากผู้ถูกกล่าวหาได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการฯ เช่น จ่ายค่าเสียหาย หรือรับผู้กล่าวหากลับเข้าทำงาน เป็นต้น การดำเนินคดีอาญาให้เป็นอันระงับไป
กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
หากคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยกับคำสั่งคณะกรรมการฯ และใช้สิทธิอุทธรณ์ขอเพิกถอนคำสั่งต่อศาลแรงงาน ตามมาตรา 8 (4) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522
หากผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์แต่ประการใด ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำการฝ่าฝืนอันต้องด้วยบทบัญญัติ ตามมาตรา 127 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 เป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษตามมาตรา 158 และมาตรา 159 แห่งพระราชบัญญัติฯ ฉบับเดียวกัน คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น